อากาศร้อน : แนะนำการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในสภาพอากาศร้อน

การปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ใน สภาพอากาศร้อน

ในสภาพอากาศปัจจุบันที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูงส่งผลให้ผู้คนที่ทำงานใน สภาพอากาศร้อน
เป็นอันตรายไม่ว่าจะเป็นลมแดดตะคริวเกิดความเครียดจากความร้อน วันนี้เรามาดูคำแนะนำของ WHO ว่าควรทำอย่างไรเมื่อต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน

คำแนะนำที่ดีสำหรับการอยู่อย่างปลอดภัยในช่วงอากาศร้อน

เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากอันตรายในช่วงที่มีอากาศร้อนควรปฏิบัติดังนี้

• ย้ายไปยังห้องที่เย็นที่สุดในบ้านโดยเฉพาะตอนกลางคืน
• หากไม่สามารถทำให้บ้านเย็นได้ ให้ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ในที่ที่มีอากาศเย็น เช่น อาคารสาธารณะที่มีเครื่องปรับอากาศ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
• หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักหากทำได้ และหากต้องทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ให้ทำในช่วงที่อากาศเย็นสบายที่สุด ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงเช้าระหว่างเวลา 04:00 – 07:00 น.
• อยู่ในที่ร่ม
• อย่าทิ้งเด็กหรือสัตว์ไว้ในรถที่จอดอยู่

ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นในช่วงอากาศร้อนได้อย่างไร

• รักษาร่างกายให้เย็นและชุ่มชื้นด้วยการอาบน้ำเย็นหรืออาบน้ำในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อน หรือผ้าเย็น ผ้าขนหนู ฟองน้ำ และอ่างแช่เท้าเพื่อ
• รักษาความเย็น สวมเสื้อผ้าที่เบาและหลวมอาจทำมาจากวัสดุธรรมชาติ และหากต้องไปข้างนอกให้สวมหมวกปีกกว้างหรือหมวกแก๊ปและ
• แว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดด ใช้ผ้าปูเตียงและผ้าปูที่นอนสีอ่อน และไม่มีหมอนอิงเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมความร้อน ดื่มน้ำเป็นประจำ แต่
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป กินอาหารมื้อเล็กๆ และกินบ่อยขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปรตีนสูง

ควรทำอย่างไรหากรู้สึกไม่สบายใน สภาพอากาศร้อน

• หากรู้สึกวิงเวียน อ่อนแอ วิตกกังวล หรือกระหายน้ำอย่างรุนแรงและปวดศีรษะในช่วงที่มีอากาศร้อน ทางที่ดีควรย้ายไปอยู่ในที่เย็นโดยเร็วที่สุดและวัดอุณหภูมิร่างกาย ดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย
• พักผ่อนทันทีในที่เย็นหากมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกอย่างเจ็บปวด โดยเฉพาะที่ขา แขน หรือหน้าท้อง และดื่มเกลือแร่ หากตะคริวกินเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และยังมีอาการผิดปกติอื่นๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
• และหากสมาชิกในครอบครัวหรือคนที่คุณช่วยเหลือคนใดคนหนึ่งมีอาการผิวหนังร้อนแห้งและเพ้อ ชัก และ/หรือหมดสติ ให้โทรเรียกรถพยาบาลทันที ระหว่างรอความช่วยเหลือ ให้เคลื่อนย้ายบุคคลนั้นไปยังที่เย็น วางในแนวนอน ยกขาและสะโพกขึ้น ถอดเสื้อผ้าและเริ่มระบายความร้อนจากภายนอก เช่น วางผ้าเย็นที่คอ รักแร้ และขาหนีบ เป่าลม อย่างต่อเนื่องและฉีดพ่นผิวหนังด้วยน้ำที่อุณหภูมิ 25–30 องศาเซลเซียส วัดอุณหภูมิร่างกาย อย่าให้กรดอะซิติลซาลิไซลิกหรือพาราเซตามอล จัดท่านอนตะแคงข้างถ้าเป็นคนหมดสติ

ทำให้บ้านเย็นได้อย่างไรในช่วงที่มีอากาศร้อน

• ในช่วงที่มีอากาศร้อนควรพยายามทำให้พื้นที่อยู่อาศัยเย็นสบาย ตรวจสอบอุณหภูมิห้องระหว่างเวลา 08:00 น. – 10:00 น. เวลา 13:00 น. และตอนกลางคืนหลังเวลา 22:00 น. ตามหลักการแล้ว ควรรักษาอุณหภูมิห้องให้ต่ำกว่า 32 °C ในตอนกลางวัน และ 24 °C ในตอนกลางคืน นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทารกหรือผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 60 ปีหรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง
• ในตอนกลางคืนและตอนเช้าตรู่ที่อุณหภูมิภายนอกต่ำลง ให้เปิดหน้าต่างและบานประตูหน้าต่างทั้งหมดในบ้าน
• ในระหว่างวันให้ปิดหน้าต่างและบานเกล็ด (ถ้ามี) โดยเฉพาะหน้าต่างและบานเกล็ดที่หันเข้าหาแสงแดดในตอนกลางวัน ปิดแสงเทียมและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้มากที่สุด แขวนม่านบังตา ผ้าม่าน กันสาด หรือบานเกล็ดบนหน้าต่างที่รับแดดเช้าหรือบ่าย แขวนผ้าขนหนูเปียกเพื่อทำให้อากาศในห้องเย็นลง หากมีเครื่องปรับอากาศ ให้ปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อประหยัดไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นและทำให้รู้สึกเย็นสบาย 

สรุป

ในสภาพอากาศร้อนอาจทำให้เกิดอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว จากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกดังที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยให้มีความเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นสบายก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายที่เกิดจากความร้อนได้